ฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร)
26 มิถุนายน 2566 เป็นวันคล้ายวันประสูติ “สมเด็จพระสังฆราช” ในปีนี้ทรงเจริญพระชันษา 96 ปี
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ทรงเปี่ยมด้วยศีลาจารวัตรอันงดงาม ทรงใฝ่พระทัยในการศึกษาพระปริยัติธรรม และวิปัสสนาธุระ ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนา
และเกื้อกูลประโยชน์สุขของประชาชนมาโดยตลอด
พระองค์สร้างคุณูปการแด่คณะสงฆ์อย่างมากมาย อาทิ งานด้านการศึกษา
เป็นอาจารย์สอนธรรมวินัยแก่พระภิกษุ-สามเณร, แม่กองงานพระธรรมทูต, นายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ในส่วนงานปกครองคณะสงฆ์ พระองค์ดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม, เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต เป็นต้น
สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรออนไลน์ ระหว่างวันที่ 25 - 27 มิ.ย. 2566 ได้ที่ wellwishes.royaloffice.th/index.php/home/index/26
พระประวัติ
สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นบุตรคนโตในจำนวน บุตรธิดา 9 คน ของ นายนับ กับ นางตาล ประสัตถพงศ์ ประสูติที่บ้านตำบลบางป่า อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2470
ทรงศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนเทวานุเคราะห์ ตำบลโคกกระเทียม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี จนทรงจบประถมศึกษาปีที่ 1 และทรงศึกษาต่อ ณ โรงเรียนประชาบาลวัดพเนินพลู ตำบลบางป่า อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรีจนทรงสำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เมื่อ พ.ศ.2480
การบรรพชาอุปสมบท
เมื่อมีพระชนมายุ 13 พรรษา จึงได้ทรงบรรพชา ณ วัดสัตตนารถปริวัตร
ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เมื่อทรงเป็นสามเณร
ได้เสด็จไปทรงเล่าเรียนพระปริยัติธรรมใน สำนักของพระอธิการโสตถิ์ สุมิตฺโต
ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ที่พระศรีธรรมานุศาสน์
เจ้าคณะอำเภอเมืองบางแพ (ธรรมยุต) ณ วัดตรีญาติ ตำบลพงสวาย อำเภอเมือง
ราชบุรี จังหวัดราชบุรี ทรงสอบนักธรรมและบาลี ประโยคต่างๆ
ในสำนักเรียนวัดตรีญาติ ได้นักธรรม ชั้นเอก และเปรียบธรรม 4 ประโยค
เมื่อ พ.ศ. 2490 ได้ทรงพบกับพระจินดากรมุนี (ทองเจือ จินฺตากโร)
ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทาน สถาปนาชั้นเป็น สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี
ชักชวนให้ทรงเข้ามาพำนักเพื่อทรงศึกษาเล่าเรียน พระปริยัติธรรม
ในสำนักเรียนวัดราชบพิธ สถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร
ทรงเข้าพิธีผนวชเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 9
พฤษภาคม พ.ศ. 2491 ณ มหาพันธสีมาวัดราชบพิธสถิตมหา สีมาราม
เขตพระนครกรุงเทพมหานคร ทรงได้รับพระสมณฉายาว่า “อมฺพโร” โดยมีพระเทพโมลี
(วาสน์ วาสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระจินดากรมุนี (ทองเจือ จินฺตากโร)
เป็นพระกรรมวาจาจารย์