ภาพข่าว 8 กรกฎาคม 2536
พระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินทปัญโญ) หรือ พุทธทาสภิกขุ มรณภาพ สิริรวมอายุ 87 ปี 67 พรรษา
28 พฤษภาคม 2536 ท่านพุทธทาสภิกขุ อาการอาพาธทรุดลงอย่างหนักช่วงหลังเที่ยงคืนระหว่างรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชฯ คณะแพทย์เห็นว่าไม่สามารถเยียวยาให้ดีขึ้นได้ จึงอนุญาตให้ลูกศิษย์และญาติ นิมนต์ท่านพุทธทาสภิกขุกลับจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้ท่านมรณภาพท่ามกลางธรรมชาติของสวนโมกขพลาราม ตามเจตนารมณ์ของท่านพุทธทาส
ช่วงเช้าวันที่ 8 กรกฎาคม 2536 ท่านพุทธทาส ถูกนำขึ้นเครื่องบินกองทัพอากาศไปยังสวนโมกขพลาราม อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีแพทย์โรงพยาบาลศิริราชฯ 2 คน ติดตามขอถวายการรักษา เมื่อเดินทางไปถึงบรรดาลูกศิษย์และประชาชนร่วม 200 คน นำท่านพุทธทาสเข้ากุฏิ แพทย์พยายามกระตุ้นชีพจร ให้ออกซิเจน แต่อาการยังไม่ดีขึ้น โดยนายแพทย์นิพนธ์ พวกวรินทร์ กล่าวว่า จะถวายการรักษาต่อไป จนกว่าร่างกายของท่านจะรับไม่ได้ กระทั่งพระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้ประชาชนทราบว่าท่านพุทธทาสภิกขุ มรณภาพเมื่อเวลา 11:22 น. โดยสรีรสังขารของพุทธทาสภิกขุ ได้ทำพิธีบรรจุสู่โลงศพในวันดังกล่าวเวลา 20:30 น. และเคลื่อนจากกุฏิไปไว้ที่ศาลาธรรมโฆษณ์
ท่านพุทธทาสภิกขุ เคยเขียนพินัยกรรมไว้ ในเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการจัดการศพเท่านั้น โดยต้องการให้เป็นไปอย่างธรรมดาที่สุด ตามพระอริยวินัย โดยกำหนดให้พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) เป็นผู้จัดการศพหรือตั้งให้ผู้อื่นปฏิบัติแทนหากปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ให้ละเว้นการขอพระราชทานโกศ หรือทำพิธีอย่างอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ ให้เก็บศพในโลงที่ปิดมิดชิด ละเว้นการเปิดดู ละเว้นพิธีรดน้ำศพ ละเว้นการฉีดยาศพ ละเว้นพิธีสวดศพ ให้เผาศพใน 3 เดือน หรือ หากจำเป็นก็ไม่เกิน 1 ปี โดยจัดการอย่างง่ายที่สุด ให้จัดงานพิธีโดยให้เผาในบริเวณเขาพุทธทอง โดยปักเสาสี่มุมและคาดผ้าขาวเป็นเพดาน กระดูกให้เก็บในที่ที่ทำไว้ในศาลาธรรมโฆษณ์ ส่วนเถ้าให้แบ่งเป็น 3 ส่วน นำไปโปรยที่ช่องอ่างทอง ต้นแม่น้ำตาปี และเขาประสงค์ โดยไม่ให้จัดการอย่างอื่นนอกจากที่กล่าวมานี้