จ้างคนมากินเจแทนจะได้บุญหรือไม่?

Share

ช่วงนี้หลายคนคงทราบว่า เทศกาลสำคัญอย่างหนึ่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว คือเทศกาลกินเจ เริ่มเมื่อวันซืนนี้ แล้วก็จะต่อเนื่องจนถึงวันที่ 4 ตุลาคม 10 วัน

จริงๆเทศกาลกินเจหรือประเพณีถือศีลกินเจเดิมเป็นธรรมเนียมของศาสนาเต๋าในจีน เพราะเต๋าเขาเน้นมากเรื่องการกินเจ แต่ตอนหลังก็แพร่หลาย จนกระทั่งคนที่นับถือขงจื้อก็ดี นับถือพุทธก็ดี โดยเฉพาะพุทธมหายาน รับเอาธรรมเนียมประเพณีนี้มาปฏิบัติด้วย แล้วตอนหลังแม้จะไม่นับถือพุทธ หรือไม่นับถือศาสนาอะไรเลย ก็เข้าร่วมการถือศีลกินเจด้วย

อย่างในเมืองไทยนี้ ตอนนี้ก็เรียกว่าแพร่หลายกันมาก เราจะเห็นว่ามีร้านค้ามากมายทำอาหารเจ หรือว่าบริษัทห้างร้านต่างๆ ก็มีอาหารเจนานาชนิด นมกล่องเจ หรือว่าผลิตภัณฑ์เจต่างๆมากมาย จะว่าไปก็เป็นโอกาสในการทำมาหาเงินของคนจำนวนมาก บางร้านนี่เรียกว่าได้เงินเป็นกอบเป็นกำเลยในช่วง 10 วันนี้ เพราะว่าความนิยมของผู้คนในการกินอาหารเจ โดยเฉพาะถ้ามีรสชาติแปลกๆ มีเมนูที่ไม่เหมือนใคร ก็จะได้รับความนิยมมาก จะว่าไปมันกลายเป็นกระแสไปแล้วก็ว่าได้

แล้วเดี๋ยวนี้เราพบว่า นอกจากมีผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ๆ ที่สนองความต้องการของคนที่อยากจะถือศีลกินเจแล้ว เดี๋ยวนี้ก็มีบริการใหม่ๆด้วย ได้ข่าวว่ามีการประชาสัมพันธ์ รับจ้างกินเจแทน รับจ้างกินเจแทนหมายความว่า ใครที่อยากจะกินเจ แต่ว่ายังติดอาหารเนื้อ ก็สามารถจะจ้างคนมากินเจแทนได้ แล้วเขาก็คิดราคาเป็นมาตรฐานเลย

รับจ้างกินเจ 1 วัน ครบ 3 มื้อคิด 300 บาท รับจ้างกินเจ 3 วัน คิด 500 บาท รับจ้างกินเจ 5 วัน คิด 700 บาท รับจ้างกินเจ 7 วัน คิด 1,000 บาท ถ้ารับจ้างกินเจ 10 วัน พร้อมสวดมนต์ให้ด้วย 2 วัน แต่ถ้าไปไหว้เจ้ามีเพิ่ม 500 บาท เพราะฉะนั้นใครที่อยากจะกินเจครบ 10 วัน แต่ทำไม่ได้ ถ้ามีเงิน 2,500 บาทนี่ มีคนรับจ้างทำให้เลย

น่าคิดนะ ว่ามีบริการแบบนี้เสนอผู้คน ทำไมถึงมีบริการแบบนี้ได้ เพราะว่ามีคนจำนวนมากมีความเชื่อว่า การกินเจทำให้ได้บุญ ทำให้เกิดสิริมงคล ทำให้เกิดโชคลาภ ทำให้เกิดอายุยืน หายเจ็บหายป่วย พูดง่ายๆคือว่า การกินเจคือการทำบุญอย่างหนึ่ง และเมื่อทำบุญแล้วได้บุญ ก็จะเกิดโชคเกิดลาภตามมา

เรื่องการจ้างคนมาทำบุญก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ อาจจะเคยได้ยินช่วงเทศกาลโควิค มีคนรับจ้างใส่บาตรให้ รับจ้างถวายสังฆทาน เพราะว่าออกจากบ้านไม่ค่อยสะดวก เพราะว่าช่วงล็อกดาวน์ อยากจะใส่บาตรอยากจะได้บุญ แต่ว่าไม่สะดวกที่จะใส่บาตร ก็จ้างคนไปใส่บาตร เขาเตรียมอาหารให้พร้อมเลย อยากจะถวายสังฆทานแต่ว่าไปลำบาก ก็มีคนรับจ้างถวายสังฆทานพร้อมเครื่องสังฆทาน ไม่ต้องไปเลือกซื้อเอง อันนี้เป็นความสะดวกสบาย

ที่จริงเราก็สะดวกสบายกันมานานแล้ว เพราะสมัยก่อนเวลาเราจะใส่บาตร เราต้องปรุงอาหารเอง ทำอาหารเอง เข้าครัวเอง แต่ตอนหลังไม่ต้องแล้ว มีเงินก็ไปซื้ออาหารถุงที่ตลาด หรือว่าเดี๋ยวนี้ก็มี delivery เราก็แค่เอาอาหารไปใส่บาตร อันนี้ก็ยังดี อย่างน้อยก็ได้ใส่บาตรด้วยตัวเอง แต่ตอนหลังไม่ต้องใส่บาตรด้วยตัวเองแล้ว เพราะตื่นสาย มีคนรับจ้างไปใส่บาตรให้ แต่ว่าอันนี้ยังไม่หนักเท่ารับจ้างกินเจ

ทำไมกินเจเราถึงเชื่อว่าได้บุญ ก็เพราะว่าเป็นการลดการเบียดเบียนสัตว์อื่นชีวิตอื่น แล้วก็ยังแถมลดการเบียดเบียนตัวเองด้วย เพราะว่าอาหารเจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ หรืออย่างน้อย เป็นโทษต่อร่างกายเราน้อยกว่าอาหารที่เป็นเนื้อ เดี๋ยวนี้คนเป็นโรคหัวใจ คนเป็นโรคเบาหวาน คนเป็นโรคมะเร็ง เพราะอาหารเนื้อมากเลย แล้วนอกจากลดการเบียดเบียนสัตว์ ลดการเบียดเบียนตัวเองแล้ว เดี๋ยวนี้เขายังพบว่าลดการเบียดเบียนโลกด้วย เพราะว่าการเลี้ยงสัตว์ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาก ต้องถางป่าเพื่อที่จะปลูกธัญพืช เช่นถั่วหรือมันสำปะหลังเพื่อจะเลี้ยงสัตว์ แถมยังใช้น้ำเยอะ ซึ่งพวกนี้ล้วนแต่ก่อปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่นทำให้โลกร้อน

แล้วเดี๋ยวนี้เขามีการรณรงค์ให้คนเรากินผัก หรือกินเจกินมังสวิรัติกันมากขึ้น แล้วยังเป็นการลดการติดในรสชาติของอาหารด้วย เพราะว่าอาหารเนื้ออร่อยกว่าอาหารผักอยู่แล้ว ในความรู้สึกของคนทั่วไป แล้วถ้าเกิดว่าเรากินอาหารเจแม้ 10 วัน ก็ช่วยลดการเบียดเบียนสัตว์ไปได้ไม่น้อย แล้วก็ลดการเบียดเบียนตัวเอง ลดการเบียดเบียนโลก อันนี้แหละคือเหตุผลที่ทำให้การกินเจได้บุญ

แต่ถ้าเกิดว่าเราไปจ้างคนอื่นกินเจแทน แต่ขณะที่เราก็ยังกินเนื้อสัตว์ ยังกินเหมือนเดิม จะได้บุญได้อย่างไร เราก็อยากกินเนื้อสัตว์ เราก็ยังกินอาหารที่เป็นโทษต่อสุขภาพ แม้จะอร่อย แล้วเราก็ยังมีส่วนในการทำลาย เบียดเบียนโลก เบียดเบียนธรรมชาติ จะได้บุญได้อย่างไร

เดี๋ยวนี้เราไปเข้าใจว่า จะทำอะไร อยากได้อะไร ก็ใช้เงิน อันนี้เป็นค่านิยมหรือทัศนคติสมัยใหม่ จะเรียกว่าเป็นผลพวงของยุคบริโภคนิยมก็ได้ เพราะบริโภคนิยมเขาบอกว่า คุณจะมีความสุขได้ ถ้าคุณมีเงิน เพราะว่าเงินจะช่วยทำให้คุณมีสิ่งเสพ คุณเสพมากมีมากครอบครองมาก คุณก็จะมีความสุขมาก แล้วตอนหลังไม่ใช่ความสุขอย่างเดียว อยากเป็นคนทันสมัยมาดมั่น อยากมีภาพลักษณ์ผู้หญิงเก่ง ก็ใช้เงินซื้อ ใช้เงินซื้อสินค้าแบรนด์เนม หรือว่าซื้อโทรศัพท์มือถือที่สร้างภาพพจน์ว่าเราเป็นคนทันสมัย เช่น iPhone iPad เดี๋ยวนี้คนใช้เงินเพื่อตอบโจทย์หลายอย่าง ไม่ใช่แค่ความสุข แต่ความเท่ห์ความทันสมัย

แล้วเดี๋ยวนี้มันไปไกลว่า อยากได้บุญก็ใช้เงิน อยากได้บุญก็ใช้เงินซื้อ ใช้เงินซื้อบุญ ใช้เงินซื้อบุญด้วยการบริจาคทานหรือด้วยการซื้อ ก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่ว่าการใช้เงินเพื่อที่จะจ้างคนมาทำแทน อันนี้มันหนักข้อนะ ก็เหมือนกับว่าต่อไปนี้ แทนที่เราจะรักษาศีล รักษาศีล 5 ชาวพุทธเราก็เชื่อว่าการรักษาศีล 5 จะทำให้ได้บุญ ต่อไปเราก็ไม่ต้องรักษาศีล 5 แล้ว เราจ้างคนมารักษาศีลแทน จะได้บุญไหม จ้างคนมารักษาศีลแทนเรา หรือว่าศีล 8 ได้บุญมากกว่าศีล 5 แต่ว่าเราอยากจะยังกินอาหารเย็น เราอยากจะมีเพศสัมพันธ์ ก็เลยจ้างคนมาถือศีล 8 แทนเรา อย่างนี้จะได้บุญแล้ว หรือต่อไปเราก็รู้ว่า การเจริญสติการทำกรรมฐานเป็นของดี ดียิ่งกว่าได้บุญยิ่งกว่าการให้ทานรักษาศีลอีก แต่ว่าขี้เกียจมาภาวนา ก็ไปจ้างคนมารักษาศีล หรือยิ่งกว่านั้นคือมาเจริญภาวนาเจิรญสติแทนเรา จ้างคนมาปฏิบัติที่วัดป่าสุคะโตแทน ตัวเองอยู่บ้านดูหนังไป จะได้บุญหรือเปล่า

ต่อไปรู้ว่าการบวชเป็นของดี การบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่เป็นสิ่งที่พึงกระทำ แต่ขี้เกียจบวช อยากจะเที่ยวเหมือนเดิม ก็จ้างคนมาบวชแทน อย่างนี้จะได้บุญหรือเปล่า พ่อแม่จะได้บุญหรือเปล่า ลองคิดแบบนี้ก็จะพบว่า ความคิดที่ว่าจ้างคนมากินเจแล้วจะได้บุญนี่ มันเป็นความหลงที่เดียว มันไม่ได้บุญหรอก แต่ว่าเดี๋ยวนี้คนมีความเชื่อแบบนี้เยอะ เพราะว่าเราเห็นเงินเป็นใหญ่

เพราะเดี๋ยวนี้เราจ้างคนมาทำการบ้าน เด็กๆ ก็จ้างคนมาทำการบ้าน เดี๋ยวนี้เห็นโฆษณารับจ้างทำการบ้านกันเยอะแยะไปหมดเลย ทางทวิตเตอร์ทางเฟสบุ๊ค รับจ้างสอบยังมีเลย เพราะฉะนั้นพอเราไปหลงติดความเชื่อว่า มีเงินทำได้ทุกอย่าง มีเงินสามารถจะจ้างคนมาทำนั่นทำนี่ได้ ฉะนั้นจะจ้างคนกินเจซะเลยมันจะได้บุญ เหมือนกับการจ้างคนทำข้อสอบก็ได้เกรดได้ปริญญาโดยที่ไม่ต้องทำอะไร แต่ความรู้ไม่มี

ความคิดหรือความเชื่อในเรื่องการจ้าง ใช้เงินจ้างคนหรือซื้อบริการ ตอนนี้แพร่หลายมาก จนกระทั่งจ้างคนมาทำความดี จ้างคนมาทำบุญกุศลแทนเรานี่ ก็มีคนเชื่อนะ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีการเปิดขาย หรือประกาศรับจ้างกินเจ รับจ้างไหว้เจ้าอย่างที่เห็น อันนี้แสดงว่า ค่านิยมของคนเรามันเพี้ยนไปเรื่อยๆ เราต้องตั้งมั่นอยู่ในความเข้าใจที่ถูกต้องว่า ความดีต้องทำเอง ให้ทานนี่อาจจะฝากคนไปใส่บาตรได้ แต่ถ้าเรื่องการรักษาศีล การเจริญภาวนา ต้องทำเอง ไม่มีใครทำแทนได้ พ่อแม่ก็ทำแทนไม่ได้ เรามีกรรมเป็นของตน ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะทำกรรมดีให้เรา หรือทำดีแทนเราได้ ไม่ได้นะ เราต้องเข้าใจ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเราจะเข้าใจพุทธศาสนาผิดเพี้ยนคลาดเคลื่อน จนกระทั่งไม่ทำดีแล้ว จ้างคนอื่นทำ เพราะว่าไปมองว่าเงินนี่คือคำตอบ

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 26 กันยายน 2565