สวนโมกข์กรุงเทพจัดงานทำบุญครบรอบ 12 ปี

Share

วันนี้ (20 พ.ค. 2566) สวนโมกข์กรุงเทพจัดงานทำบุญครบรอบ 12 ปี เพื่อทบทวนความเป็นมา รายงานการทำงานที่ผ่านมา งานที่จะทำต่อไป ตลอดจนแสดงกตัญญูตาและกล่าวขอบพระคุณต่อพระมหาเถระ ครูบาอาจารย์ ธรรมภาคี ผู้มีส่วนร่วมสนับสนุน และสาธารณชน

ก้าวแรก

     พุทธทาสภิกขุริเริ่มงานธรรมที่ไชยา เมื่อปี พ.ศ. 2475 ในชื่อ “สวนโมกขพลาราม” ให้เป็นสถานอันรื่นรมย์เป็นกำลังเพื่อความหลุดพ้นของผู้คน โดยได้สร้างสรรค์ผลงานไว้อย่างมากมาย


     หลังมรณกรรม พ.ศ 2536 สวนโมกขพลาราม วัดธารน้ำไหล และธรรมทานมูลนิธิ ได้ประมวลรวบรวมและมอบหมายให้มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ดำเนินการจัดตั้งเป็นหอจดหมายเหตุขึ้นในกรุงเทพมหานคร  เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครอบ 60 ปี และโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา


     โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ก่อสร้าง ณ ริมสระใหญ่ของสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) ภายในอุทยานสวนจตุจักร ฯ จากนั้นก็ได้รับการสนับสนุน แรงกาย แรงใจ แรงทุน แรงสติปัญญา กว่าจะก่อเกิดเป็นพื้นที่แห่งนี้ขึ้นมา


     “ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจ พื้นที่นี้ก็เกิดขึ้นได้ยาก นับแต่เรื่องสถานที่ ... แม้เมื่อได้สถานที่ก็ยังต้องใช้ทรัพย์มากมาย ที่ท่านทั้งหลายช่วยกันบริจาค ช่วยกันสร้าง จนกระทั่งสำเร็จ ... กระทั่งเป็นอาคารแล้ว ก็ยังได้รับการสนับสนุน ขับเคลื่อน จากท่านทั้งหลายดำเนินกิจการ สร้างสรรค์กิจกรรม และให้สถานที่แห่งนี้ได้ทำหน้าที่”

ก้าวหน้า

• หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ เริ่มก่อสร้าง พ.ศ. 2550
• เปิดให้บริการสาธารณะ พ.ศ. 2553 (1 ส.ค. 2553)
• สมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระดำเนินเปิดอย่างเป็นทางการ พ.ศ. 2554 (25 มี.ค. 2554)




     นับแต่สมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระดำเนินเปิดหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ อย่างเป็นทางการ เมื่อ  25 มีค 2554 ถึงวันนี้ (20 พค 2566) เป็นเวลา 12 ปีแล้ว ที่หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ เปิดบริการ เป็นพื้นที่รับใช้สังคม ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย

ช่วงแรก 


1. มุ่งเป็นศูนย์เรียนรู้และบริการด้านศาสนธรรมอันรื่นรมย์
2. มุ่งสืบสานงานพระพุทธศาสนา ผ่านงาน ปณิธาน อุดมการณ์ แบบอย่างพุทธทาสภิกขุ
3. มุ่งทำหน้าที่รวบรวม ดูแล รักษา และจัดระบบบริการสืบค้นมรดกธรรม ของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาส อินทปัญโญ) และพุทธทาสท่านอื่นๆ

ช่วงต่อมา


1. มุ่งปรับปรุงพัฒนาระบบงานและการบริหารจัดการกิจการและกิจกรรมให้สมบูรณ์ มั่นคง

2. มุ่งประสานกับกัลยาณมิตร ธรรมภาคี ขยายเครือข่ายขับเคลื่อนงานด้านศาสนธรรมและพุทธศาสนา

     นับเป็นเวลา 12 ปี ที่หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญได้มุ่งมั่นดำเนินตามวัตถุประสงค์อย่างวิริยะ มีผลงาน มีอุปสรรค ความท้าทายหลายอย่างเกิดขึ้น โดยความก้าวหน้าทั้งหลายจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดการสนับสนุน เกื้อกูล ทั้งจากพระภิกษุสงฆ์ หน่วยงานองค์กรกัลยาณมิตร ธรรมภาคี พุทธศาสนิกชน จิตอันเป็นกุศล และเหตุปัจจัยเอนกอนันต์

     ในโอกาสครบรอบ 12 ปี ในปี 2566 นี้ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ จึงได้จัดงานทำบุญครบรอบ และแสดงมุทิตาจิตครูบาอาจารย์ ขอบคุณธรรมภาคี และผู้สนับสนุน ที่เกื้อกูลการขับเคลื่อนงานธรรมมาอย่างยาวนาน

     โดยได้รับเมตตาจากสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธรงชัย ธมฺมธโช) แสดงสัมโมทนียกถา พระอาจารย์โพธิ์ จันทสาโร แสดงธรรมปรารภในวาระ 12 ปีสวนโมกข์กรุงเทพ คุณบรรยง พงษ์พานิช เล่าความเป็นมา 12 ปีสวนโมกข์กรุงเทพ



     มีการมอบวัตถุระลึก คือภาพพุทธทาสภิกขุ ซึ่งถ่ายโดย ร.บุญนาค ต้นฉบับจริง ในกรอบไม้ พร้อม....รูปตรีรัตนะ ที่สวนโมกข์กรุงเทพตั้งใจมอบเพื่อแสดงความขอบคุณ




ก้าวต่อไป


     12 ปีถัดจากนี้ กระบวนงานธรรมยังคงมุ่งมั่นที่จะสืบสานปณิธานพุทธทาสภิกขุ ยังคงพร้อมที่จะรับใช้พระศาสนา รับใช้พุทธทาสทั้งหลาย ขับเคลื่อนงานธรรมเพื่อสังคมสืบไป เฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง “สร้างสรรค์สังคมรมณีย์” ที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป.อ. ปยุตฺโต ได้เมตตาให้แนวทางการดำเนินงานไว้

     “องค์ประกอบของรมณีย์ 1. ฉาโยทกสมบัติ -พร้อมด้วยร่มไม้และสายน้ำ  2. ภูมิภาคสมบัติ -บริเวณพื้นที่น่าเดินน่าชม สะอาดเรียบร้อย  3. บุคคลสมบัติ -ไม่มีคนร้าย มีแต่คนดี 4. คมนาคมนสมบัติ -ไปมาปลอดภัย ไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป"

     “สังคมไทยต้องฟื้น ถ้าขนาดธรรมะพื้นฐานนี้ฟื้นไม่ได้นี่ไม่ไหวแล้ว อย่างน้อยคำว่ารมณีย์ต้องกลับมา ต้องทำให้ได้ ฝากชาวพุทธไว้นะ รมณีย์นี่เรื่องใหญ่ สภาพแวดล้อม สิ่งแวดล้อมนี่เป็นพื้นฐานของชีวิตและเป็นพื้นฐานการปฏิบัติธรรมด้วย

     “ถ้าเมืองไทยเป็นถิ่นรมณีย์ก็ไม่ต้องกลัว ทั่วโลกจะต้องชื่นชมแล้วจะยกประเด็นเป็นผู้นำของยุคอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รมณีย์นี้ถ้ารมณีย์อยู่ สิ่งแวดล้อมอยู่” – โอวาทสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) 13 มี.ค. 64

เสวนา

     เพื่อให้สังคมรมณีย์เกิดได้จริง ช่วงบ่ายสวนโมกข์กรุงเทพ จึงจัด 2 วงเสวนา เพื่อขอแนวทางขับเคลื่อน จากพระมหาเถระและครูบาอาจารย์

     วงแรก อาราธนานิมนต์ พระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) และ พระมหาฉัตรชัย สุฉัตตชโย, บัญชา พงษ์พานิช ดำเนินรายการ



     วงที่สอง อาราธนานิมนต์ พระราชวัชรบัณฑิต (ประนอม ธมฺมลงฺกาโร), พระครูจารุธรรมพิมล (ราวี จารุธมฺโม), พระครูสิริธรรมาภิรัต (ธรรมรัต อริยธมฺโม), พระครูประคุณสรกิจ (การุณย์ กุสลนนฺโท), ประสิทธิ์ วิทยสัมฤทธิ์ ดำเนินรายการ


      ช่วยท้ายสุดของวัน ดร.วิรไท สันติประภพ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ได้กล่าวสรุป และกล่าวขอบพระคุณ ความโดยสรุปว่า “12 ปีของสวนโมกข์กรุงเทพ ผ่านไปเร็วมาก เป็น 12 ปีที่มีผลงาน ความท้าทาย อุปสรรค หลายอย่างเกิดขึ้น  เมื่อแรกจัดตั้งสวนโมกข์กรุงเทพ ได้รับเมตตาจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป.อ. ปยุตฺโต ให้แนวทางว่าให้ช่วยกันทำให้คนอยู่ใน ใจเหนือ เกื้อโลก มี.ค. 2564 สมเด็จฯ ได้ให้แนวทางว่าอยากให้สวนโมกข์ช่วยกันทำให้ความเป็นรมณีย์เกิดขึ้น  วัดเป็นวัดรมณีย์ โรงเรียนเป็นโรงเรียนรมณีย์ ชุมชนเป็นชุมชนรมณีย์


    พ.ค. 2566 นพ.บัญชา ได้ไปกราบเรียนสมเด็จฯ ว่า “ในโอกาสครบรอบ 12 ปี สวนโมกข์กรุงเทพอยากจะใช้คำ สร้างสรรค์สังคมรมณีย์ เป็นแนวทางการทำงานในอีก 12 ปีต่อไป” ท่านสมเด็จฯ กล่าวว่า นี้เป็นความท้าทายอย่างมาก และได้ชี้แนะว่า สิ่งสำคัญที่จะสร้างสังคมรมณีย์ได้คือต้องกลับไปที่มนุษย์รมณีย์ ทำอย่างไรให้มนุษย์เป็นมนุษย์รมณีย์ นั่นจะเป็นสังคมรมณีย์ได้


     วงเสวนาช่วงบ่าย ครูบาอาจารย์ได้เมตตาขยายความให้เห็นภาพมากขึ้นว่า สังคมรมณีย์ควรให้ความสำคัญกับรมณีย์ที่ใจ สร้างให้เกิดฉันทะ ปราโมทย์ ความพอเพียง หลักมัตตัญญูตา ความสันโดษ และได้เมตตาชี้ให้เห็นถึงการปฏิบัติการเชื่อมโยงระหว่างรมณีย์ที่ใจและประโยชน์เกื้อโลก

     สำหรับ 12 ปีต่อไปของสวนโมกข์กรุงเทพ เราจะให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เน้นสร้างรมณีย์ เพื่อให้ก่อเกิดผลต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพระและวัด กลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มสตรี และกลุ่มองค์กร

     ทั้งหมดนี้คือจิ๊กซอว์ที่ชาวสวนโมกข์มุ่งมั่นที่จะเติมน้ำกลับเข้าไปในขวด เราเป็นเพียงองค์กรเล็กๆ เป็นหยดน้ำเล็กๆ ทั้งหมดนี้จะเกิดไม่ได้เลยถ้าไม่ได้รับเมตตาจากครูบาอาจารย์ ภาคีต่างๆ

     ในนามสวนโมกข์กรุงเทพ ขอกราบขอบพระคุณพระมหาเถระ ครูบาอาจารย์ ที่ร่วมงานกับเราตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ตลอดวันนี้ และต่อๆ ไป ต้องขอบคุณที่ได้ให้ความเมตตาและเป็นพลังที่จะสร้างสังคมรมณีย์ให้สังคมไทยและสังคมโลกต่อไป. กราบขอบพระคุณครับ”


ขอขอบคุณข่าวจาก NBT 

หมายเหตุ กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของนานากิจกรรม ในโอกาสครบรอบ 12 ปี สวนโมกข์กรุงเทพ และ อาจารยบูชา 30 ปี พุทธทาสละสังขาร  ระหว่างวันที่ 20 - 28 พฤษภาคม นี้ ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส  อินทปัญโญ (สวนโมกข์กรุงเทพ) รายละเอียดกิจกรรมอื่นๆ คลิกที่นี่