นพ.บัญชา พงษ์พานิช ผู้อำนวยการหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์กรุงเทพ) และ ศศวรรณ จิรายุส หัวหน้าฝ่ายสื่อสารงานธรรม ให้สัมภาษณ์ในรายการ วันใหม่วาไรตี้ ไทยพีบีเอส เกี่ยวกับความเป็นมาของของสวนโมกข์กรุงเทพที่มีอายุครบ 12 ปีในปีนี้ โดยเริ่มจากเป็นที่เก็บจดหมายเหตุของพุทธทาสภิกขุ แต่ไม่ได้เพียงเก็บไว้แต่นำออกให้คนเอาไปใช้ จึงมีการออกแบบพัฒนานานากิจกรรมที่เกี่ยวกับชีวิตและจิตใจและขยายผลออกไป ตัวอย่างของกิจกรรมที่บุกเบิกจนเป็นนิยมในช่วงปีใหม่ คือ การสวดมนต์ข้ามปี ทำให้กลายเป็นกระแสและมีการทำกิจกรรมนี้ในหลายวัดในเวลาต่อมา

นพ.บัญชา ได้กล่าวด้วยว่า หลักคิดข้อหนึ่งของอาจารย์พุทธทาส คือ "ธรรมะคือหน้าที่" (ตามคำแปล) ซึ่งไม่ได้หมายความว่าต้องไปปฏิบัติธรรมที่วัดเท่านั้น แต่การทำหน้าที่ให้ดีก็เป็นธรรมะ นำไปสู่แนวคิด "ทำอะไรก็ธรรม" ในการจัดกิจกรรม ซึ่งทุกกิจกรรมจะมีธรรมะแฝงอยู่ให้ได้เรียนรู้ ซึ่งคือการประยุกต์ธรรมให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะคนเมือง โดยกิจกรรมแบ่งเป็น 5 กลุ่ม

1. บุญประเพณี เช่น ทำบุญตักบาตร ทำบุญวันสำคัญทางศาสนา เช่น วิสาขบูชา

2. เสวนา เรียนรู้

3. ภาวนาวิถีเมือง 

4. ปฏิบัติธรรม ในหลากหลายแนว เช่น อานาปานสติม, เจริญสติแบบเคลื่อนไหว

5. ธรรมบันเทิง

จากนั้นได้แนะนำกิจกรรมที่กำลังจะเกิดในวันวิสาขบูชา วันที่ 3 มิถุนายน 2566 ซึ่งมีหลากหลายกิจกรรมตลอดวัน

ชาวพุทธหลายคนอาจจะกำลังมองหาสถานที่ทำบุญตักบาตร หรือสถานที่ทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายจากความเครียดในชีวิตประจำวัน สวนโมกข์กรุงเทพก็ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ท่ามกลางธรรมชาติที่ช่วยฮีลใจให้คนเมือง ซึ่งพื้นที่นี้มีเรื่องราวมากมายให้เราได้เรียนรู้และเป็นมากกว่าสถานที่ปฏิบัติธรรม