พุทธทาสภิกขุรับเสด็จสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร 3 ครั้ง ที่สวนโมกขพลาราม
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร (เจริญ สุวัฑฒโน) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เสด็จเยี่ยมสวนโมกขพลาราม รวมทั้งสิ้น ๓ ครั้ง ในช่วงระหว่าง พ.ศ. ๒๕๓๒ – ๒๕๓๕ ดังนี้
- ครั้งที่ ๑ วันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๓๒
- ครั้งที่ ๒ วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๓๔
- ครั้งที่ ๓ วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๓๕
ในครั้งแรกนั้น “ท่านพุทธทาสภิกขุ” ขอโอกาสกราบสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ เนื่องจากท่านพุทธทาสภิกขุมีอายุพรรษาเเก่กว่า สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ จึงห้ามไว้ เเต่ท่านพุทธทาสภิกขุก็ไม่ยอม สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ จึงได้กราบท่านพุทธทาสภิกขุกลับ


คำถาม: เมื่อคราวที่พระอาจารย์พุทธทาสอาพาธหนักนั้น ฝ่าพระบาทได้เคยไปเยี่ยมอาจารย์พุทธทาสที่ได้ขอละสังขาร โดยท่านอาจารย์ให้เหตุผลว่า อายุเกินพระพุทธเจ้ามาแล้ว แต่ฝ่าพระบาทได้ขอไว้ หลังจากนั้นอาการของอาจารย์พุทธทาสก็ฟื้นขึ้นมา และมีชีวิตอยู่ต่อมาอีกหลายปี ขอกราบทูลฝ่าพระบาทเล่าเหตุการณ์ในครั้งนั้น
คำตอบ: เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 12-14 กันยายน พ.ศ. 2532 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) เสด็จเยี่ยมภิกษุสามเณรและประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5 จังหวัด คือ สงขลา สตูล ปัตตานี นราธิวาส และยะลา ตามคำกราบทูลอาราธนา ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
เมื่อเดินทางผ่านวัดหรือจังหวัดในเส้นทางที่มีพระผู้ใหญ่ที่ทรงเคารพนับถือ ก็จะทรงแวะแสดงสามีจิกรรมต่อพระผู้ใหญ่ สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี อยู่ในหมายกำหนดการที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ จะต้องแวะเพื่อไปถวายสักการะท่านอาจารย์พุทธทาส
เนื่องจากทรงคุ้นเคยตั้งแต่คราวอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2509 ซึ่งท่านพุทธทาสเป็นอาจารย์กรรมฐา ของสำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศด้วยรูปหนึ่งและพระนักศึกษาธรรมทูตไปต่างประเทศได้เคยมารับการอบรม ณ สวนโมกขพลาราม
พระดร.อนิลมาน ธมฺมสากิโย หนึ่งในคณะผู้ติดตาม เล่าว่า ตอนที่เสด็จไปเยี่ยมนั้นท่านพุทธทาสยังไม่ได้อาพาธหนัก ยังไม่ได้ล้มหมอนนอนเสื่อ เป็นแต่เพียงเจ็บออดแอด ยังออกมารับเสด็จได้เป็นชั่วโมง ท่านพาไปดูโรงมหรสพทางวิญญาณ ลานหินโค้ง แล้วก็นำเสด็จมาประทับที่ม้าหินหน้ากุฏิ ที่ปกติเก้าอี้ม้าหินนั้นท่านอาจารย์พุทธทาสนั่งประจำ
ท่านอาจารย์พุทธทาสทูลสมเด็จพระสังฆราชให้ประทับ แล้วท่านก็ไม่ยอมนั่ง ท่านพุทธทาสทูลว่า
“ขอประทานกราบสมเด็จพระสังฆราชหน่อยที่อุตส่าห์เสด็จมาเยี่ยมถึงวัด”
สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ ทรงพยายามห้าม แต่ท่านไม่ยอม แล้วต่างคนก็ต่างกราบ พอท่านพุทธทาสกราบ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ ก็บอกไม่ได้ๆ ต้องกราบกลับ
ส่วนคำถามที่ว่านั้น ตอบได้ว่า เหมือนกับเวลาไปเยี่ยมคนที่รู้จักกัน แล้วระหว่างคุยก็ปรารภเรื่องสังขารว่าไม่ไหวแล้ว แล้วสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ ก็รับสั่งว่าขออาราธนาใต้เท้าอยู่ก่อนอย่าเพิ่งไป แต่ว่าคนก็ชอบอธิบายในเชิงอภินิหารไปสักหน่อย
ในวันนั้นมีการคุยเรื่องหนังสือ และวิธีสอนของท่านพุทธทาส มีการคุยเรื่องธรรมะลึกๆ หลายเรื่อง เช่น เรื่องหนังสือมหาสติปัฏฐานสูตร ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ รับสั่งว่าเป็นหนังสือที่ดีมาก และทรงใช้บ่อย
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร เสด็จเยี่ยมสวนโมกขพลาราม ครั้งที่ 2 เมื่อ วันที่ 7 มีนาคม ปี พ.ศ. 2534
ท่านพุทธทาสภิกขุชราภาพมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นด้วยต้องการถวายสักการะต่อสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ จึงพยายามลงมานั่งราบกับพื้นเพื่อกราบสักการะ และสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ ท่านก็กราบกลับ ด้วยพระองค์มีอายุพรรษาอ่อนกว่า
ปี พ.ศ. 2534
ปี พ.ศ. 2534
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร (เจริญ สุวัฑฒโน) ได้เสด็จเยี่ยมสวนโมกขพลาราม ครั้งสุดท้ายเมื่อ วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๓๕ ก่อนหน้าที่พุทธทาสภิกขุจะละสังขารในปีต่อมา
ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร เมื่อครั้งดำรงพระยศที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จวัดธารน้ำไหล (สวนโมกขพลาราม) เป็นการส่วนพระองค์ ในครั้งนั้น พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) อาพาธมากขึ้น เดินไม่สะดวกจนต้องนั่งรถเข็น แต่ออกมารับเสด็จ เมื่อสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช มาถึง หลวงพ่อพุทธทาสพยายามลงมาจากรถเข็น เพื่อกราบสมเด็จพระสังฆราช จนพระองค์รีบตรัสว่า “ใต้เท้า ไม่ต้อง ไม่ต้อง”
หลวงพ่อพุทธทาสจึงทูลว่า “เกล้ากระผม..”
สมเด็จพระญาณสังวรจึงตรัสขึ้นว่า
“ ใต้เท้าอยู่ก่อนนะ อยู่ช่วยกันก่อน อยู่ช่วยพระศาสนากันก่อน”
หลวงพ่อพุทธทาสทูลตอบว่า
“เกล้ากระผมไม่ไหวแล้ว มากกว่าพระพุทธเจ้าแปดปีแล้ว”
แล้วหลวงพ่อพุทธทาสก็พยายามก้มลงกราบ ส่วนสมเด็จพระญาณสังวรก็ทรงค้อมพระองค์ตอบ ครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่พระมหาเถระได้พบกัน
































