ชีวิตคือการเดินทางไกล พักได้แต่ต้องไปต่อ
ท่านทั้งหลายก็ทราบได้ว่าปีหนึ่งๆนั้น มันก็มีเหมือนกับวงกลม เช่นว่าปีใหม่ก็เวียนมาถึงเขาอีก มีลักษณะเหมือนวงกลม ถ้าถือปีใหม่กันอย่างนี้มันก็วนเวียนอยู่ที่ตรงนี้ ไม่ต้องไปไหนกัน เวียนเป็นวงอยู่อย่างนี้เอง เราจะได้รับประโยชน์อะไรจากปีใหม่ เราควรจะทำให้มันก้าวไปข้างหน้า ให้มันเดินไปข้างหน้า กว่าจะถึงที่สุดจุดหมายปลายทาง แล้วเราจะต้องทำอย่างไร ข้อนี้ควรจะทำในใจให้ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะได้เตรียมจิตใจให้เหมาะสม ให้สำเร็จประโยชน์
ขอให้ถือเสมือนหนึ่งว่าเราเดินทางไกล คือ ชีวิตนี้มันก็เป็นการเดินทางไกลอยู่ในตัวแล้ว ถ้าพูดถึงมนุษย์เป็นส่วนรวม มนุษย์ก็ได้เกิดขึ้นในโลกนับได้ ๑๐,๐๐๐ ปีหรือ ๑๐๐,๐๐๐ ปีมาแล้วตามที่เขาเชื่อกัน ก็เดินมาด้วยวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมันมีมนุษย์ในโลกอย่างสมัยนี้ซึ่งต่างกันจนเปรียบกันไม่ได้กับมนุษย์ในโลกสมัยนู้น นี่มันก็เป็นการเดินทางไกลไม่ได้เป็นวงกลมอยู่กับที่ แปลว่าเราคนหนึ่งๆนี้ ในชีวิตนั้นมันก็เป็นการเดินทางไกล ตั้งแต่เป็นเด็กทารกมาเป็นผู้ใหญ่ เป็นคนเฒ่าคนแก่ มันมีอะไรเพิ่มมากขึ้น เพิ่มมากขึ้น ไม่ได้เป็นวงกลมอยู่กับที่ ฉะนั้น ขอให้ทุกคนถือเอาคติแห่งการเดินทางไกล แค่นี้แหละ มาปรับกันเข้าให้ได้กับเรื่องของปีใหม่
การเดินทางไกลพอเหนื่อยเข้าเราก็ต้องหยุด พอหายเหนื่อยเราก็เดินต่อไปอีกแล้วก็หยุดเมื่อเหนื่อย แล้วก็เดินต่อไปอีกเมื่อหายเหนื่อยอย่างนี้ไปเรื่อยๆไป เดี๋ยวนี้เวลามันก็ได้ล่วงมา ๑ ปีเต็ม มันเหนื่อยมันก็ต้องหยุดเหมือนกับส่งท้ายปีเก่า รุ่งขึ้นก็เดินต่อไปเหมือนกับต้อนรับปีใหม่ ถ้าทำได้อย่างนี้ การส่งปีเก่า การขึ้นปีใหม่ มันก็เป็นการเดินต่อไปไม่วนอยู่เป็นวงกลม
ขอให้ท่านทั้งหลายจงพยายามกระทำให้ได้ในลักษณะเช่นนี้เถิด การทำพิธีส่งปีเก่าขึ้นปีใหม่ก็ย่อมจะมีความหมาย เราจะทำกันอย่างไรจึงจะได้รับผลเช่นนั้น ถึงแม้เหนื่อยแล้วก็ต้องหยุด หยุดหายเหนื่อยแล้วก็ต้องเดินต่อไปอีก ไม่ขี้เกียจ ไม่เหลวไหล หยุดเสียตลอดกาล นึกดูว่าการขึ้นปีใหม่นี้อะไรที่มันยังค้างคาอยู่ก็ทำต่อไป ท่านทั้งหลายจงฟังดูให้ดีๆว่าอะไรมันค้างคาอยู่สำหรับสิ้นปีนี้ ขึ้นปีใหม่ก็ต้องทำต่อไปให้มันก้าวหน้าไปตามลำดับ ทำอย่างนี้เรื่อยไปเรียกว่าขึ้นปีใหม่ อย่าโง่ไปถึงกับว่ามันจะต้องเปลี่ยนแนวใหม่ เปลี่ยนกระแสใหม่ หาเรื่องใหม่ ริเริ่มอะไรใหม่ๆบ้าๆบอๆ อย่างนั้นมันจะไม่ใหม่ มันจะไม่เข้ากัน มันจะวนเวียน มันจะส่ายไปส่ายมา หรือมันจะย้อนกลับหลัง
ปีใหม่ทางเก่า
คำว่า “ใหม่” นี้ไม่จำเป็นที่จะต้องคิดอะไรขึ้นมาใหม่ แต่ว่าอะไรที่มันเป็นแนวทางสำหรับจะเดินไปก็เดินไป คือทำสิ่งที่ค้างอยู่นั่นให้เสร็จไป เสร็จไป อย่างนี้เรื่อยไป
หรือจะเปรียบอย่างหนึ่งก็เหมือนกับเดินทางที่มันเก่า มันรก มันปิดมิด เพราะคนไม่ค่อยเดิน เราก็ค้นหาทางเดินเก่าให้พบ แล้วก็เดินต่อไปตามทางนั้น พระพุทธเจ้าเองท่านก็ยังตรัสอย่างนี้ คือท่านตรัสว่า ท่านค้นพบทางเก่าที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตเคยเดินมาแล้ว ท่านก็เดินตามทางอันนั้น แล้วก็สอนให้พุทธบริษัททั้งหลายเดินจนเป็นทางที่สำเร็จประโยชน์ขึ้นมาอีก เช่น อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้เรียกว่า “ทาง” พระพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนได้ค้นพบ และเดิน และสอนให้สาวกเดิน ต่อมามันมีการเปลี่ยนแปลงด้วยอำนาจของอนิจจัง ไม่ค่อยมีใครเดิน คนเดินน้อยเข้า หรือกระทั่งไม่เดิน ทางมันก็ลับเงียบหายไป พระพุทธเจ้าองค์ใหม่ก็มาค้นพบทางเดิมนั่นแหละอีก แล้วก็เดิน แล้วก็สอนให้คนอื่นเดิน ยังจะเป็นอย่างนี้อีกเรื่อยๆไป ไม่ว่าจะมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาในโลกนี้อีกสักกี่พระองค์
และที่จะต้องคิดอีกข้อหนึ่งก็คือว่า พระพุทธเจ้าองค์ไหนจะเกิดขึ้นมาในโลกก็ต้องตรัสสอนเรื่องเกี่ยวกับความดับทุกข์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็เรื่องปฏิจจสมุปบาท ในฐานะที่เป็นกฎอิทัปปัจจยตา พระพุทธเจ้าองค์ไหนทรงอุบัติขึ้นมาก็จะทรงสอนเรื่องนี้ ไม่ให้มันสาบสูญหายไปได้ เช่นเดียวกับการพบทางใหม่ เดินกันแล้วก็รู้เรื่องอิทัปปัจจยตาที่เรียกว่า “ปฏิจจสมุปบาท” เป็นหลักสำคัญเป็นหัวใจของพระศาสนา ที่แสดงให้รู้ชัดโดยละเอียดว่าความทุกข์เกิดขึ้นอย่างไร ความดับทุกข์นั้นดับลงไปอย่างไร ขอให้ไปศึกษาโดยนัยแห่งปฏิจจสมุปบาทนั้นโดยละเอียด จะทราบได้ด้วยกันทุกคน เดี๋ยวนี้เราก็เหมือนกับว่าเดินไปตามทางเก่าที่ลับไปเพราะไม่ค่อยมีใครเดิน เดินให้มันใหม่ขึ้นมาอีก ให้สำเร็จประโยชน์ขึ้นมาอีก
ที่พูดนี้ก็หมายความว่าเราไม่ต้องคิดเรื่องอะไรใหม่ขึ้นมา เราไม่ต้องสร้างทฤษฎีอะไรบ้าๆบอๆใหม่ๆขึ้นมา คงยึดถือได้ตามหลักที่ท่านได้ตรัสไว้แล้วอย่างไร แล้วก็เดินไป เหนื่อยก็หยุด หายเหนื่อยก็เดินไป เหนื่อยก็หยุดหายเหนื่อยก็เดินไป ขอให้มันเป็นอย่างนี้ในแต่ละปีๆ ค้นพบทางเก่าแล้วก็จะเดินไปๆให้ถึงจุดหมายปลายทางให้จนได้ เพราะว่ามันยาว มันนาน ยิ่งคนขี้เกียจเดินแล้วก็ มันก็ยิ่งยาว หรือว่าถ้ามันไม่มีแรงจะเดิน มันก็รู้สึกว่ามันยาว แต่ถึงกระนั้นก็อย่าได้ประมาทเลย จงพยายามเดินให้จนได้ ก็เดินอย่างที่เรียกว่า เหนื่อยก็หยุด หายเหนื่อยก็เดิน เหนื่อยก็หยุด หายเหนื่อยก็เดิน
ที่มา - เทศน์วันสิ้นปีเก่าขึ้นปีใหม่ ปี 2521