มีนักศึกษาสาวคนหนึ่งหาเงินเพื่อเป็นค่าเล่าเรียนของตัวเองด้วยการไปเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่อเมริกาหรือว่าประเทศอย่างยุโรป นักศึกษาต้องช่วยตัวเอง หาเงินส่งเสียตัวเอง ไม่ใช่เฉพาะค่าเล่าเรียน รวมถึงค่ากินค่าอยู่ ค่าที่พัก แม้พ่อแม่จะรวยแต่ว่าส่วนใหญ่นักศึกษาเขาก็จะพยายามพึ่งตัวเอง นักศึกษาคนนี้ก็เหมือนกัน ไปเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารแห่งหนึ่งในรัฐมิชิแกน
วันหนึ่งก็เจอลูกค้าคนหนึ่ง ท่าทางจะเป็นคนจากถิ่นอื่นเพราะว่าไม่คุ้นหน้าเลย เธอก็เสิร์ฟอาหารตามปกติ พอเขาจ่ายเงิน ค่าอาหารจริง ๆ 30 ดอลลาร์ ประมาณ 1,000 บาท แต่ปรากฏว่าลูกค้าคนนี้ให้ทิปเป็นเงินถึง 10,000 ดอลลาร์ ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 350,000 บาท เป็นทิปที่สูงมาก อเมริกาเรื่องการจ่ายทิป มันธรรมดาอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นค่าอาหารก็ 10 เปอร์เซ็นต์ 20 เปอร์เซ็นต์ ปกติค่าอาหาร 30 ดอลลาร์ ก็ได้ทิปประมาณ 6 ดอลลาร์ หรือ 10 ดอลลาร์อย่างมาก แต่ว่ารายนี้ให้ถึง 10,000 ดอลลาร์
เธอก็แปลกใจ ตกใจ ผู้จัดการก็เหมือนกัน ก็ตกใจ รีบเดินไปหาลูกค้าคนนี้ทันทีเพราะเขาคิดว่าลูกค้าอาจจะจ่ายเงินผิด อาจจะมีความผิดพลาด ไม่ตั้งใจ แต่ลูกค้าบอกว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความเต็มใจที่จะให้ค่าทิปแก่พนักงานเสิร์ฟ เหตุผลก็คือเพื่อเป็นเกียรติแก่เพื่อนรักของเขาคนหนึ่งที่เพิ่งตายจากไป เขาบอกว่าเขามาเมืองนี้เพื่อมางานศพของเพื่อนที่รักคนหนึ่ง แล้วก็อยากจะไว้อาลัยให้กับเพื่อนคนนี้ ก็เลยตั้งใจที่จะมอบเงินจำนวนนี้ให้กับพนักงานเสิร์ฟ เพราะหวังว่าพวกเขาจะได้มีวันที่ดี วันที่สดใส อย่างน้อยก็วันหนึ่ง คือวันนี้
เป็นเหตุผลที่น่าประทับใจมาก คนเราเวลาสูญเสียคนรัก เช่น เพื่อนรัก ก็ย่อมโศกเศร้า แต่ว่าแทนที่จะนึกถึงแต่ตัวเองหรือจมอยู่กับความโศกความเศร้าของตัวเอง กลับอยากจะให้คนอื่นเขามีความสุข วันนี้อาจจะไม่ใช่วันดีของเราแต่อยากให้วันนี้เป็นวันดีของคนอื่นที่แม้จะไม่รู้จักแต่ก็สมควรที่จะได้รับสิ่งดี ๆ ในวันนี้ นั่นก็คือพนักงานเสิร์ฟนี่แหละ เพราะว่าพนักงานพวกนี้ปกติค่าแรงก็ได้น้อยอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็อยู่ได้เพราะค่าทิปนี่แหละ ในอเมริกา ฉะนั้นพนักงานก็รอค่าทิปจากลูกค้า มีลูกค้าบางคนให้ถึง 100 ดอลลาร์ แต่ว่าไม่เคยมีใครให้ถึงถึง 10,000 ดอลลาร์
เหตุผลของชายคนนี้น่าประทับใจมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเขาอยากจะสืบทอดความดีของเพื่อน เพื่อนคนนี้ก็คงจะเป็นคนที่มีน้ำใจ ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อผู้อื่น เพราะฉะนั้นเมื่อมางานศพของเพื่อนคนนี้ เพื่อระลึกถึงเพื่อนคนนี้ก็อยากจะทำความดีเป็นการสานต่อความดีของเพื่อน เขาก็เลยมอบเงินหมื่นนี้ให้กับคนที่เดือดร้อน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาเคยได้รับความเอื้อเฟื้อจากเพื่อนคนนี้มา ก็รู้สึกสำนึกในบุญคุณของเพื่อน ทีนี้เมื่อเพื่อนจากไปก็อยากจะตอบแทนบุญคุณของเพื่อนด้วยการส่งต่อความดี ความเอื้อเฟื้อให้กับคนอื่นต่อไป
อันนี้ก็เป็นวิธีการตอบแทนบุญคุณ เวลาเราได้รับความเอื้อเฟื้อจากใครแล้วเราไม่สามารถจะตอบแทนบุญคุณเขาได้ เพราะเขาไม่อยู่แล้วหรือเพราะเราไม่รู้จักเขา เราก็ตอบแทนด้วยการส่งต่อความเอื้อเฟื้อของเขาให้กับคนอื่นที่เราได้พานพบ
เดี๋ยวนี้มีคำที่เรียกว่า Pay it forward แทนที่จะจ่ายคืนก็จ่ายให้กับคนอื่น อันนี้เป็นวิธีการแสดงความระลึกถึงเพื่อนหรือคนรักที่จากไปที่ดี ถ้าเป็นเมืองไทยเราก็ใช้คำว่า ทำบุญให้เพื่อน หรือ ทำบุญให้พ่อแม่ แต่ฝรั่งคนนี้เขาไม่มีความคิดหรือรู้จักเรื่องของบุญ เขาก็เลยใช้คำว่า เพื่อเป็นเกียรติกับเพื่อนรักที่ตายจากไป อันนี้เป็นคำที่เรียกว่าร่วมสมัย เพราะคนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้นึกถึงบุญแล้ว แต่อย่างน้อยเราก็นึกถึงความดีของเพื่อนแล้วก็อยากจะทำความดีเพื่อเป็นเกียรติกับเขาหรือว่าเพื่อสานต่อความดีของเขาหรือเพื่อตอบแทนบุญคุณของเขาก็ได้ อะไรก็ได้ทั้งนั้น ก็ถือว่าดีและเป็นสิ่งที่น่าทำ เรียกว่าเป็นการทำให้ความตายของเขามีคุณค่า
ความตายของคนที่เรารัก ถ้าเราปฏิบัติไม่ถูกต้องเราก็ทุกข์ ทุกข์จนกระทั่งบางทีอยากจะตายตามเขาไป อันนี้เรียกว่าเป็นการทำให้ความตายเขามีผลในทางลบ กลายเป็นโทษ แต่ถ้าเรารักเขา เราก็ควรทำให้ความตายของเขามีคุณค่าด้วยการใช้เป็นโอกาสในการทำความดีสืบต่อไป หรือความดีในนามของเขา หรือทำความดีเพื่อเป็นเกียรติกับเขา ฉะนั้น ถ้าเราคิดถึงการทำความดีเพื่อเป็นการไว้อาลัยหรือเพื่อเป็นเกียรติแก่คนรักของเราที่ตายจากไป มันเกิดประโยชน์มาก เกิดประโยชน์ทั้งกับเราเองและกับคนอื่น เราควรช่วยกันทำความดีแบบนี้เยอะ ๆ ดีกว่าปล่อยใจให้จมอยู่กับความเศร้าโศก หรือไม่เช่นนั้นก็จัดงานศพให้มันยิ่งใหญ่ แต่ว่าการจัดงานศพให้ยิ่งใหญ่อาจจะดูเหมือนเป็นเกียรติกับคนที่ตายจากไป แต่ที่จริงแล้วมันมีประโยชน์น้อยมาก
ถ้าเราทำความดีด้วยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เพื่อเป็นเกียรติกับเขา ช่วยเหลือเกื้อกูลคนอื่น คนที่ลำบาก เด็กยากจน คนไร้บ้าน คนชรา คนเจ็บคนป่วยที่ไร้ญาติ หรือแม้แต่สัตว์เดรัจฉานที่ถูกคนทิ้ง หรือปลูกป่ารักษาสิ่งแวดล้อม ทำความดีเหล่านี้เพื่อเป็นเกียรติกับคนที่เรารักหรือเพื่อสานต่อความดีของเขายังจะดีกว่า แล้วก็มีคุณค่ามาก