มีครอบครัวหนึ่งพ่อแม่ลูก ลูกก็อายุประมาณสัก 10
ขวบได้หรือว่าเล็กกว่านั้น วันหนึ่งขับรถผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ๆ
ก็มีลูกกวางตัวน่ารัก ยังเด็กอยู่เลยน่ารัก
มายืนขวางถนนแล้วก็จ้องมองมาที่รถ รถต้องหยุดเลย หยุดแล้วกวางก็ยังไม่ยอมไป
ทีแรกนึกว่ากวางจะข้ามถนนแต่ว่าไม่ได้ข้ามถนน จงใจจะขวางถนนเอาไว้
ครอบครัวนี้ก็ไม่เข้าใจว่ากวางตัวน้อยต้องการอะไร รีๆ รอๆ อยู่สักพักหนึ่ง
ปรากฎกวางน้อยก็ทำท่าจะเรียกว่ากระสับกระส่าย
หมุนตัวไปหมุนตัวมาแล้วก็มองไปที่ชายป่า มองเข้าไปในป่า
ก็เลยเดาว่าสงสัยกวางน้อยคงต้องการจะสื่อสารอะไรบางอย่างกับคน
ลูกชายก็เลยลงจากรถ
พอกวางเห็นคนลงจากรถมันก็ตรงมาที่เด็กคนนั้น
แล้วก็ดมรองเท้า เหมือนกับจะบอกเชิญชวนให้ช่วยตามฉันไปหน่อย
แล้วส่งสายตามองเข้าไปในป่า ทำให้ทั้งลูก พ่อและแม่ต่างก็ขยับ
แล้วก็ลงจากรถ ลูกกวางก็วิ่งเข้าไปในป่าเลย
เหมือนกับว่าเรียกร้องให้คนตามเข้าไป
พอทุกคนเดินตามเข้าไปในป่าสักพักได้ยินเสียงร้อง เป็นเสียงร้องของกวาง
ก็เลยรู้ว่าคงมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นแน่
พอเข้าไปในป่าสักพักก็เจอต้นเสียงเลย
เป็นกวางตัวใหญ่คิดว่าคงเป็นกวางตัวแม่ด้วย
กำลังถูกเชือกรัดคงเป็นบ่วงหรือแร้ว แล้วมันก็ส่งเสียงร้อง
เลยรู้ว่าลูกกวางกำลังต้องการความช่วยเหลือ
กำลังขอร้องให้คนไปช่วยแม่ของเขา แต่พอคนเข้าไปใกล้ๆ
แม่กวางก็ยิ่งดิ้นเข้าไปใหญ่เพราะว่ามันกลัวคน
แล้วคนก็ไม่รู้จะทำอย่างไงเพราะว่าไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือ
แต่เด็กก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีมีดอยู่ในรถ มีดพก เด็กก็กลับไปที่รถเอามีดมา
แล้วก็ใช้มีดตัดเชือกที่รัดแม่กวางเอาไว้
พอแม่กวางมันรู้ว่าคนพยายามช่วยเหลือมัน มันก็นิ่งเลย
เพราะมันรู้ว่าคนมาดีไม่ได้มาร้าย มันนิ่งมันยอมให้คนตัดเชือกตัดบ่วง
จนกระทั่งเคชือกขาดมันก็ปลอดภัย พอหลุดจากบ่วง
แม่กวางรีบวิ่งเข้าป่าด้วยความตกใจ
คนก็ดีใจว่าได้ช่วยแม่กวางเอาไว้
อดทึ่งไม่ได้ว่าลูกกวางเขารักแม่มาก
แล้วก็พร้อมที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยแม่
ตัวเองก็รู้ว่าช่วยแม่ไม่ได้ก็ต้องหาคนอื่นมาช่วย มนุษย์นี่แหละ
ซึ่งก็เสี่ยงเหมือนกัน แต่ก็กล้าเสี่ยง
คราวนี้พอครอบครัวนี้ขึ้นรถ
ยังไม่ทันขึ้นรถเลยปรากฎว่าไปเห็นแม่กวางลูกกวางยืนอยู่ไกลๆ
ก็ไม่ไกลเท่าไหร่สัก 10-20 เมตร อยู่ที่ขอบถนน
แม่กวางที่หนีเข้าป่าไปแล้วกลับมา เหมือนกับว่ามาขอบคุณ
เท่านั้นไม่พอลูกกวางเดินตรงมาหน้ารถ แล้วก็หมอบ เหมือนกับคารวะ
ต้องการขอบคุณ เด็กลงจากรถแล้วเดินไปที่ลูกกวาง เอามือลูบหัวลูกกวาง
มันก็ยอมให้ลูบเพราะว่ามันรู้ว่าคนไม่เป็นพิษเป็นภัย
สำนึกในบุญคุณที่คนได้ช่วยแม่เขา
ความสำนึกในบุญคุณนี้เราเรียกว่าความกตัญญู
กวางน้อยตัวนี้มีทั้งความกตัญญูต่อแม่
เห็นแม่เดือดร้อนก็อยากจะช่วยแม้ตัวจะต้องเสี่ยงก็ตาม
แล้วพอมีคนมาช่วยแม่ได้สำเร็จก็สำนึกบุญคุณของคน จึงเข้ามาใกล้ๆ มาคารวะ
กวางเรียนรู้มาจากไหน ถึงกับหมอบ ด้วยการงอขา 2
ข้างเหมือนกับเป็นการก้มคารวะ ความสำนึกในบุญคุณของลูกกวาง
ชี้ให้เห็นเลยว่า ความกตัญญูสำนึกในบุญคุณมีแม้กระทั่งในจิตใจของสัตว์
แม้เราจะเรียกว่าเป็นเดรัจฉาน
เดรัจฉานเหมือนกับว่าเป็นสัตว์ชั้นต่ำหรือว่าเป็นชีวิตชั้นต่ำ
แต่ว่าเขาก็มีความสำนึกในบุญคุณ มีความกตัญญู ซึ่งก็ไม่ใช่มีแต่กวาง
ปลาวาฬน้อยที่เคยเล่าเขาเรียกคน ขอร้องให้คนไปช่วยแม่เขาที่ติดตาข่ายจับปลา
แล้วพอคนช่วยได้สำเร็จ
ทั้งแม่ปลาวาฬแล้วก็ลูกปลาวาฬก็ว่ายตามมาขอบคุณคนที่ไม่ไปช่วยเขา
แถมตัวแม่ก็คาบปลากระเบนมามอบให้คนที่มาช่วยเขาด้วย
เช่นเดียวกับปลาวาฬตัวน้อย
อันนี้ก็เรียกว่าเป็นความสำนึกในบุญคุณที่แม้กระทั่งสัตว์น้ำก็มี
อย่าว่าแต่สัตว์เลย นกก็มี
มีตัวอย่างเยอะเลยความสำนึกในบุญคุณต่อผู้มีพระคุณ
ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้กำเนิดหรือว่าคนที่ช่วยชีวิตของพ่อแม่ แม้
ขนาดสัตว์ก็ยังมีความกตัญญูรู้สึกสำนึกในบุญคุณ
นับประสาอะไรกับมนุษย์จะเรียกว่ามีตั้งแต่เกิดก็ได้
แต่ว่าบางครั้งคนเราเนื่องจากเรามีสมองที่ใหญ่
ในแง่หนึ่งการที่มีสมองที่ใหญ่ก็ทำให้เกิดความรู้สึกสำนึกในบุญคุณ
อย่างสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีสมองที่ใหญ่กว่าสัตว์ชนิดอื่น
มันก็มีความสำนึกในบุญคุณ ความกตัญญู มีคุณธรรม
แต่ว่าสมองที่ใหญ่ก็ทำให้คิดได้มากมายหลายอย่าง แล้วถ้าคิดไม่ถูกไม่เป็น
สิ่งที่คิดก็อาจจะหักล้างความสำนึกในบุญคุณของผู้มีพระคุณก็ได้
อย่างคนที่มีเหตุผลว่า พ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรา นั่นเป็นหน้าที่ของเขา
ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะต้องขอบคุณหรือว่าสำนึกในบุญคุณ
เป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว เขาต้องทำ ถ้าเขาไม่ทำ คนก็จะมาต่อว่า
นี่เป็นเหตุผลเป็นความคิดที่สามารถจะลบล้างความสำนึกในบุญคุณที่มีอยู่ในใจของผู้คน
บางทีเหตุผลหรือความคิดก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป
เวลาเห็นคนเดือดร้อนอยากจะช่วย
ใจอยากจะช่วยเพราะมีเมตตากรุณาอยู่ในใจของทุกคน
แต่ว่าบางครั้งก็มีเหตุผลว่าทำแล้วได้อะไร อันนี้เป็นสิ่งที่เรียกว่า
เหตุผลที่ทำให้หลายคนขาดน้ำใจไม่ช่วยเหลือ มีข้ออ้างมากมายว่า ฉันต้องรีบ
ฉันต้องไป ฉันเหนื่อย ทั้งที่ใจอยากจะช่วยแต่ว่าเหตุผลบอกว่าอย่าช่วยเลย อันนี้เป็นเพราะว่าความคิดของคนเรา พอสามารถคิดได้ซับซ้อนก็สามารถจะไปกดข่มคุณธรรม หรือว่าไปหักล้างคุณธรรมความกตัญญูได้ เราก็ต้องระวังความคิดนี่
เรามีความสามารถในการคิด
แต่ถ้าคิดไม่เป็นก็สามารถจะชักนำให้เราทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งที่ใจเรียกร้อง ใจรู้ว่าอะไรถูกอะไรไม่ถูก
แต่ว่าความคิดพาไปอีกทางหนึ่ง ต้องรู้จักรู้ทันความคิดด้วย
แล้วก็อย่าไปหลงเชื่อความคิดหรือข้ออ้างที่เกิดขึ้นในหัวเรามากเกินไป อันนี้ต้องเชื่อใจเราบ้าง ฟังใจของเราบ้าง อย่าไปฟังแต่หัวอย่างเดียว
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 17 พฤษภาคม 2566