เด็กสวน (โมกข์) ตอนที่ ๗ KAFED(HAM) กาแฟธรรม

Share

งานจดหมายเหตุ,

สรุปประเด็นและร้อยเรียง การสนทนา Clubhouse สวนโมกข์กรุงเทพ

รายการ เด็กสวน(โมกข์) ตอนที่ ๗ KAFED(HAM) ​กาแฟธรรม​​

บทสนทนาเพื่อการตื่น(รู้)​ กับ คุณสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนผู้มากประสบการณ์

วันอังคารที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๔

เวลา : ๑๙.๐๐ - ๒๐.๐๐ น.

Moderator: นพ.บัญชา พงษ์พานิช และ นายเวลา

แขกรับเชิญ: สุทธิชัย หยุ่น

266609126 654903635948881 8584511145023786408 n

 

 รับฟังทั้งหมดได้ที่

https://www.youtube.com/watch?v=_HPy1GY9s2w

https://soundcloud.com/suan-mokkh/kafedham

https://open.spotify.com/episode/5Rmw4CKbbNQDr5ynXiPUcZ?si=525d83f3f1f5440c

 

ท่านพุทธทาสกับความทันสมัย

  • ดีใจมากที่เอาสวนโมกข์มาอยู่ที่กรุงเทพ ทำให้มีที่สำหรับพูดคุย แลกเปลี่ยนสิ่งที่ท่านพุทธทาสทำไว้ เขียนไว้ ทำให้เกิดความต่อเนื่อง ยิ่งมาถึงยุค Digital Disruption ยุคที่มีความขัดแย้งทางความคิดมากขึ้น ยิ่งเห็นว่าคำสอนของท่านพุทธทาสนั้นทันสมัยอย่างเหลือเชื่อ คำถามที่ถูกตั้งขึ้นในวันนี้ เป็นคำถามที่เคยเป็นประเด็น เคยถูกยกขึ้นมาในสมัยนั้น
  • ในสมัยท่านพุทธทาส เทคโนโลยีก็เริ่มมีแล้ว ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ คำถามใหญ่ในครั้งนั้นคือ แล้วหนังสือจะอยู่รอดไหม คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ท่านพุทธทาสเขียนไว้มากมายจะหลุดรอดจากการความปั่นป่วนที่มาจากสิ่งใหม่ ๆ ที่มาจากเทคโนโลยี ท่านพุทธทาสบอกว่า นั่นเป็น ‘ความจริง’ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหน มันก็จะต้องอยู่รอดแน่นอน เทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือของเรา ไม่ใช่เจ้านาย
  • ถ้าท่านพุทธทาสยังอยู่ ท่านจะเป็นคนแรก ๆ ที่มาเข้า ‘Clubhouse’ เพราะท่านใช้วิทยุและการอัดเทป ซึ่งตอนนี้คือ ‘Podcast’ สิ่งที่ท่านทำตอนนั้นคือทันสมัยจริง ๆ การสื่อสารคือหัวใจ ซึ่งท่านทำต่อเนื่อง ท่านบอกว่า อะไรก็ตามแต่ที่เราสื่อสาร เนื้อหานั้นสำคัญพอกันกับความต่อเนื่อง ความถี่ สิ่งที่ท่านทำจะเป็นวันใด เวลาใด มีความตรงเวลา ‘เป๊ะ ๆ’ ทั้ง On-site ที่สวนโมกข์ และที่จุดสัมมนาต่าง ๆ ที่น่าทึ่งคือ ท่านถอดเทปออกมาเป็นตัวหนังสือทุกครั้งที่บรรยายให้สาธารณชนได้ฟัง ได้อ่านกัน

271553481 1379760602437140 3500377931109982536 n

ขอสัมภาษณ์ท่านพุทธทาส

  • รู้จักท่านพุทธทาสครั้งแรก ในฐานะนักข่าว ไปขอสัมภาษณ์ท่าน ท่านบอก “อย่ามาสัมภาษณ์เลย มาสนทนาธรรมกันดีกว่า สิ่งที่จะพูดไม่เป็นข่าวหรอก แต่เธออาจจะสนใจที่จะฟังว่าเรื่องศาสนาพุทธเป็นอย่างไร” แม้จะฟัง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะไม่ถามคำถามที่สังคมกำลังเผชิญอยู่ในขณะนั้น ทั้งเรื่องการเมือง สังคม ปัญหาความยากจน วัฒนธรรมจากต่างชาติ สงครามเวียดนาม สงครามเย็น ฮิปปี้ ฯลฯ (ราวปีค.ศ. ๑๙๖๐) เรื่องของคนที่ไม่ต้องการยึดถือมาตรฐานเดิม ต้องการขบถ ซึ่งก็ไม่ต่างจากปัจจุบันนี้เท่าไหร่ ระบบที่มีอยู่ กำหนดโดยใคร ทำไมต้องกำหนดอย่างนี้
  • ท่านพุทธทาสติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดมาก ได้พูดคุยเรื่องสงคราม ฮิปปี้ กัญชา เยาวชน วัฒนธรรมการไม่ทำตามกรอบสังคมเดิม ธรรมะช่วยให้เราเห็นกระจ่าง ดูว่าสาเหตุมาจากอะไร เกิดอย่างไร และหาทางแก้ การจะดูว่าอะไร (ธรรมะ) ทันสมัย หรือไม่ทันสมัย ต้องดูว่าสามารถตอบคำถาม ณ ปัจจุบันได้ด้วย

20200726 10

  • ทำให้เกิดความทึ่ง เพราะปกติเวลาไปวัด คือการออกจากโลกอันวุ่นวายไปหาความสงบ ไปสวดมนต์ไหว้พระ ทำบุญ ออกจากโลกปัจจุบันไปอีกโลกหนึ่ง เมื่อออกจากวัดก็กลับมายุ่งอีก แต่เมื่อได้สนทนาธรรมกับท่านพุทธทาส โลกที่เราเจอข้างนอกแต่ละวันกับธรรมะคือเรื่องเดียวกัน เป็นการตอบคำถาม การสนทนาเรื่องค่านิยม วิธีคิด การที่จะกล้าคิดอะไรใหม่ คิดนอกกรอบได้
  • ทำให้คิดว่าคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยในสมัยนั้นที่ได้ไปสวนโมกข์จะได้สิ่งนี้เช่นกัน เพราะหลังจากที่สนทนาธรรมกับท่านแล้ว ก็มาตั้งกลุ่มคุยกันต่อ รู้สึกสนุก ท่านพุทธทาสคุยกับเรา ได้โต้ ได้แย้งกับท่าน แต่เราก็เถียงไม่ออก จนทำให้ต้องวนเวียนกลับไปพบท่านบ่อย ๆ ท่านสอนให้เรารู้จักคิด รู้วิธีคิด แต่ไม่ได้บอกว่าจะมีคำตอบให้ทุกเรื่อง
  • ในที่สุดได้สัมภาษณ์ท่าน ท่านสนุกที่ได้ท้าทายเด็กหนุ่มอย่างเรา ดูว่าเราสนใจจริงหรือเปล่า หรือแค่อยากจะได้ข่าวกลับไป ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสคุยกับท่านแบบลึกขึ้น คุยยาว ๆ ได้สนทนา อ่านหนังสือ ไปนอนที่สวนโมกข์ ตื่นตีสี่ ตีห้าท่านพุทธทาสเริ่มเทศน์ อธิบายเรื่องต่าง ๆ มาพบกันกับญาติธรรม เป็นบรรยากาศที่ได้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง

271770761 463777915320937 852086627449486235 n

เสียงพิมพ์ดีด คือเสียงแห่งธรรมะ

  • (ได้ฟังว่าคุณสุทธิชัยสอนท่านพุทธทาสพิมพ์ดีด) ไม่ถึงกับเป็นการสอน เป็นการแนะนำและให้กำลังใจท่าน คือครั้งหนึ่งตอนคุยกับท่าน ท่านกำลังเขียนหนังสือ เห็นพิมพ์ดีดเก่า ๆ อยู่เครื่องหนึ่ง จึงถามท่านว่าพิมพ์ดีดได้หรือเปล่า ท่านบอกว่าไม่ได้ ยังใช้สองนิ้ว ต๊อก ๆ แต๊ก ๆ อยู่ แล้วท่านก็ถามกลับมาว่าพิมพ์ได้ไหม ตอบท่านว่าพิมพ์ได้ เพราะเรียนพิมพ์สัมผัสมา ท่านถามว่าทำอย่างไร จึงได้โอกาสสาธิตการวางนิ้วพิมพ์สัมผัสให้ท่านดู ท่านก็ลองทำ หลังจากนั้น เมื่อกลับไปทุกครั้งก็ไปดูท่านพิมพ์ ท่านก็ยังพิมพ์ด้วยสองนิ้ว ท่านบอกว่าสองนิ้วเร็วกว่า ใช้สิบนิ้วไม่ได้ สั้น-ยาวไม่เท่ากัน ซึ่งภายหลังได้เห็นว่าต้นฉบับของท่านจะมีพิมพ์ดีดมาเสริมกับลายมือของท่านด้วย
  • ท่านสอนตัวเองจริง ๆ ทุกเรื่อง ที่ทึ่งมากคือ ภาษาอังกฤษของท่าน แม้จะมาเรียนที่กรุงเทพบ้าง แต่ท่านเรียนเอง ทั้งที่ภาษาธรรมะนั้นไม่ง่าย สุดยอดคือท่านเรียนทุกอย่างด้วยตัวเอง ด้วยความมานะ อดทน เรียนอย่างลึกและเข้าไปถึงแก่นจริง ๆ พิมพ์ดีดก็เป็นหนึ่งในนั้น บางเช้าเมื่อเดินเข้าไปใกล้ ๆ ที่ที่ท่านอยู่ จะได้ยินเสียงแก๊ก แก๊ก เป็นเสียงที่ได้ยินแล้วดีใจมาก เป็นเสียงแห่งธรรมะ

269713907 5031299046933527 6478123156925691083 n

ธรรมะกับการเมือง

  • ในยุคสมัยนั้น พิมพ์ดีดเป็นสิ่งเดียวใช้ในการเขียนหนังสือ สื่อสาร และกระจายออกไปในที่ต่าง ๆ ได้ และท่านพุทธทาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ สิ่งที่จะต้องทำ ซึ่งหลังจากนั้นท่านได้ทำรายการวิทยุ บันทึกเสียง สิ่งที่ทำให้ดีใจมากคือตอนกลับไปหา ท่านบอกว่าฟังสุทธิชัยตอนห้าโมงครึ่งทุกวันทางวิทยุแห่งประเทศไทย “... ฟังอยู่ พูดดี ๆ ก็แล้วกัน ...” ตอนนั้นรายการวิทยุมีน้อยมากที่พูดเรื่องข่าว ตนเองเป็นนักข่าวรุ่นแรก ๆ ที่วิเคราะห์ข่าว เล่าข่าวทางวิทยุทุกวันทางช่อง ๙๒.๕ MHz เวลา ๑๗.๓๐ - ๑๘.๐๐ น.
  • ท่านพุทธทาสติดตามฟังข่าวสารแล้วนำมาวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ ท่านจะนำเรื่องการเมืองมาประกอบกับการเทศน์ตลอด สิ่งนี้ทำให้คนรุ่นใหม่ในสมัยนั้นมีความประทับใจ ท่านไม่ได้เทศน์ตามคัมภีร์ หรือตามตำราอย่างพระทั่วไปเทศน์ ท่านเอามาอธิบายความว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมทุกวันนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร ท่านเขียนถึงหลักการที่ว่า ‘ระบบการเมืองที่ถูกต้องต้องอยู่บนพื้นฐานของธรรมาธิปไตย’

20210313 07

  • ท่านมีความโน้มเอียงไปทาง ‘สังคมนิยม’ หน่อย ๆ แต่ไม่ใช่สังคมนิยมในแบบคอมมิวนิสต์ หรือเผด็จการ ท่านสังคมนิยมในแง่ของการไม่ต้องการให้ทุนนิยมมาครอบงำความคิดอ่านของสังคมมากเกินไป ให้เอาธรรมะ ความถูกต้อง ความจริง ความยุติธรรมมาเป็นหลัก ท่านสอนไปก็แทรกความคิดทางการเมืองเข้าไปตลอดเวลา ซึ่งหากคนรุ่นปัจจุบันนี้ได้ไปฟังเทศน์ แล้วคุยเรื่องเดียวกับที่เรากำลังกังวลอยู่ในเรื่องเหตุการณ์บ้านเมือง จะรู้ว่าธรรมะเป็นเรื่องเดียวกันกับยุคสมัยนั้น
  • ท่านพุทธทาสเขียนหนังสือเกี่ยวกับระบบการเมืองที่ควรจะเป็น ‘ธัมมิกสังคมนิยม’ เป็นหนังสือที่ทันสมัยมากในยุคนั้น แม้ทุกวันนี้ก็ยังเห็นว่าเป็นแนวทาง แนวความคิดที่น่าคิดมากว่าทำอย่างไรในการนำเอาธรรมะเข้ามาเกี่ยวกับการเมือง
  • ‘ธัมมิกสังคมนิยม’ หมายถึงการสร้างความเท่าเทียมในสังคมโดยการเอาธรรมะเป็นหลัก ‘ธรรมะ’ คือ การมุ่งทำความดี ความถูกต้อง ความเท่าเทียม ความเมตตา และการมีส่วนร่วม คือสิ่งที่เรียกว่า ‘Inclusive – การให้ทุกคนมีส่วนร่วมเท่าเทียมกัน’ ทันทีที่คุณนั่งลงฟังเทศน์ฟังธรรม ทันทีที่คุณคุยเรื่องคำสอนของพระพุทธเจ้า เราเท่าเทียมกันทันที

974 409 612 8 742x1024 1

เราทุกคนมีหน้าที่ การทำงานคือธรรมะ

(ทรรศนะ มุมมองเปลี่ยนไปอย่างไรหลังจากที่ได้พบท่านพุทธทาส) มีผลต่อการทำงานของตัวเองอย่างมาก ในฐานะนักข่าว ในการทำข่าวต้องมีการตรวจสอบ มีความแม่นยำ ต้องมีความบริสุทธิ์ในความหมายของการรับใช้สังคมด้วย ซึ่งท่านพุทธทาสเน้นตลอดเวลาว่า “ไม่จำเป็นต้องบวช ไม่จำเป็นต้องมาวัด เราทุกคนมีหน้าที่ การทำงานคือธรรมะ” ด้วยประโยคนี้ทำให้เกิดความกระจ่าง พยายามตีความคำว่า ‘พุทธศาสนิกชน’ ทุกคนไม่จำเป็นต้องมาบวช ท่านพุทธทาสบอกว่าพิธีกรรมทั้งหลายไม่มีความสำคัญ ความสำคัญที่แท้จริงคือความเข้าใจของเรา และการปฏิบัติตนตามนั้น ผ้าเหลืองเป็นเพียงพิธีกรรมส่วนหนึ่ง ทุกอาชีพทำหน้าที่ของคุณให้ดีที่สุด คือการปฏิบัติธรรมแล้ว

ในฐานะนักข่าว ถ้าเราทำให้ความจริงปรากฏ ถ้าเราทำให้เกิดความยุติธรรมกับสังคม ถ้าเราทำให้ปัญหาที่ถูกซ่อนอยู่ได้ปรากฏออกมาให้ประชาชนได้ตื่นรู้ มีความกระจ่างในปัญหาต่าง ๆ ได้ฟังความหลาย ๆ ด้าน ก็เหมือนกับเวลาที่เราไปฟังเทศน์ แทนที่เราฟังแล้วจะเชื่อไปตามนั้น แต่ฟังไปเราก็มีคำถามไป แปลว่าอย่างไร จริงหรือไม่ เทียบกับประสบการณ์ชีวิตของเรา เช่นเดียวกับเมื่อทำข่าว ที่จะเกิดการตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบให้ได้

Critical Thinking

  • เมื่อได้ไปสนทนาแลกเปลี่ยนกับท่านพุทธทาส ท่านจะยั่วยุเราให้คิดโน่นคิดนี่ ทำไมคิดอย่างนี้ คิดอีกมุมจะเป็นอย่างไหน และเมื่อได้ฟังท่านโต้วาที หรือ debate กับผู้รู้ในเรื่องต่าง ๆ เช่น เรื่องศาสนา สังคม ยิ่งทำให้เห็นว่ามีแง่มุมที่มากกว่าเพียงแค่ใครพูดอะไร อย่างไร เช่นในสมัยหนึ่งครั้งทำข่าว จะมีคำพูดที่ว่า รายงานข่าวแบบ ‘He said, She said’ รายงานว่าเขาพูดอย่างนี้ เธอพูดอย่างนั้น แล้วจบ แต่ในด้านคนฟังอาจถามต่อว่าแล้ว ‘ความจริง’ เป็นอย่างไร มีอะไรที่ลึกไปกว่านั้นไหม นักข่าวได้ไปสืบสวนสอบสวนความจริงได้มากกว่านั้นหรือเปล่า ซึ่งทำให้เราทำงานมีคุณภาพมากขึ้น ฟังคนด้วย ‘Critical Thinking’ เกิดการตั้งคำถามเพื่อจะรายงานรอบด้านครบทุกมิติได้
  • ทั้งหมดนี้คือคุณูปการที่สำคัญมากที่ได้ไปสวนโมกข์ ไปทำกิจกรรม ตั้งวงสนทนา และช่วงหลังแม้ว่าท่านพุทธทาสจะอายุมากแล้ว แต่ก็ยังมีการตั้งวงสนทนาครั้งสำคัญ ๆ กัน
  • อ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทองก็เคยไปตั้งวงสนทนา ทำรายการที่สวนโมกข์ ซึ่งท่านพุทธทาสได้เข้าร่วมหลายครั้ง ท่านโต้เถียง จับประเด็นอย่างแม่นยำแหลมคมตลอดเวลา ทำให้ทั้งผู้ชมรายการโทรทัศน์ และผู้อ่านการสัมภาษณ์ทางหนังสือพิมพ์ได้เนื้อหา ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่ขาดไปในทุกวันนี้ น่าเสียดายสำหรับคนรุ่นนี้ ทำอย่างไรถึงจะทำให้การรายงานเรื่องธรรมะเป็นสิ่งกระตุ้นให้สังคมคิด ให้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและปัญหาสังคมที่พบในปัจจุบัน ทุกวันนี้ เนื้อหาของศาสนาไม่ได้สื่อสารด้วยภาษาที่คนทั่วไปเข้าถึงได้

20200223e

  • (แม้ท่านพุทธทาสอยู่ในวัดป่า ไม่ได้ออกจากวัดไปไหน แต่เมื่อใดที่สื่อมวลชนมาทำข่าว มักเป็นข่าวพาดหัวทุกที) … เพราะท่านพูดประเด็นที่สังคมกำลังสนใจ กล้าวิจารณ์สังคม ใช้หลักการศาสนาด้วยภาษาบ้าน ท่านจะบอกว่าสิ่งใดไม่ถูกหลัก สิ่งใดเป็นการตีความผิด ให้เอาเนื้อหา อย่าเอาพิธีกรรมมาพูด ทำให้คนฟังคิดตาม แล้วสื่อก็นำไปพาดหัว ทั้งที่ท่านไม่ได้พยายามที่จะให้เป็นข่าวเสียด้วยซ้ำ “มาคุยได้ มาถามได้ แต่ไม่รับรองว่าจะได้ข่าวกลับไปนะ ...” อยู่ในความสามารถของสื่อในการหาประเด็น
  • ช่วงนั้นเป็นช่วงเผด็จการ ปกครองโดยทหาร นักข่าวไม่รู้จะไปถามความเห็นกับใคร เพราะไม่มีใครอยากพูด มีเพียงท่านพุทธทาสที่พูด ซึ่งทหารจะไม่ค่อยกล้ายุ่งกับท่านเท่าไหร่ ท่านพุทธทาสพูดตามหลักคิด ‘Critical Thinking’ โดยไม่อยู่ข้างใคร อาวุธที่สำคัญที่สุดของท่าน คือ ‘สติ และ ปัญญา’ คือสิ่งที่ท่านให้กับสังคมไทย
  • รุ่นนี้จะต้องแสวงหาให้ผู้นำศาสนา ผู้นำทางความคิดออกมาช่วยสังคมคิดประเด็นต่างๆ ซึ่งทุกวันนี้แม้แต่วงการพระสงฆ์ยังมีการแบ่งค่ายกัน

271867555 430227982178921 7157983584177217759 n

ชวนตั้งวงกาแฟธรรม KAFED(HAM)

  • (การสื่อสารธรรมะ ควรปรับอย่างไรให้ทันกับยุคสมัย) … ควรเอาแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงของสังคมมาตั้งเป็นประเด็น แล้วถามว่าศาสนามีแนวคิดต่อเรื่องต่าง ๆ นี้อย่างไร ซึ่งตนเชื่อว่ามีคำตอบ หากตีความศาสนาให้ถ่องแท้ตามสาระที่มี จะมีคำตอบต่อทุกประเด็นสังคม
  • ในยุคท่านพุทธทาสก็มีปัญหาหลายอย่าง ทั้งสงคราม ยาเสพติด เยาวชน ความไม่เข้าใจระหว่าง Generation (คนต่างยุค) การไม่ให้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ในภาพรวมเป็นปัญหาที่คล้ายกันกับสมัยนี้ และทุกวันนี้มีปัญหาเทคโนโลยีเข้ามาแทรก มีปัญหา ‘EchoChamber – เราอยากจะฟังสิ่งที่เราเห็นด้วยเท่านั้น
  • ทุกวันนี้เป็นเรื่อง Social Media ที่แบ่งข้างกัน ใครเชื่อสิ่งใดก็จะเชื่อไปข้างหนึ่ง เรื่องเดียวกันสามารถมองกันไปคนละโลก ถ้าท่านพุทธทาสยังอยู่ เชื่อว่าท่านจะ ‘ฟันเปรี้ยง’ เลยว่าเอาสาระก่อน ประเด็นอยู่ตรงไหน อย่าเพิ่งเชื่อ ถามตัวเองก่อนว่า ‘ประเด็นอยู่ตรงไหน ประเด็นคืออะไร’  ตั้งคำถามให้ถูกก่อน อย่าเพิ่งหาคำตอบ ถ้าคำถามตั้งไม่ถูก คำตอบก็จะไม่ถูก บางครั้งคำถามสำคัญกว่าคำตอบ ท่านสอนวิธีคิดตั้งคำถาม ให้เราเข้าใจว่าทำไมเรื่องนี้จึงเป็นประเด็น

2021 05 02 195429

  • เราควรสร้าง ‘Ecosystem’ (ระบบนิเวศน์) สวนโมกข์เป็นแหล่งที่ดีที่จะสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา เชื้อเชิญให้ทุกคนมานั่งคุยกันโดยไม่มีฝ่าย โดยไม่มีความเชื่อ มาสวนโมกข์ด้วยใจเปิดกว้าง พร้อมฟังทุกอย่างแล้วสนทนา ตั้งเวที มีคนกลางเป็นพิธีกรที่จะตั้งประเด็นเพื่อสนทนาอย่างมุ่งหาความจริง มุ่งหาทางออก ซึ่งยังไม่มีใครทำแบบนี้ สถาบันการศึกษา หรือสถาบันวัดก็ไม่ได้ทำสิ่งนี้ สังคมจึงคลอนแคลน คิดว่าสวนโมกข์กรุงเทพจะเป็นศูนย์กลาง เป็นเวทีที่ทุกคนมาด้วยใจเปิดกว้าง สามารถสร้างสภาพแวดล้อมให้นำไปสู่กิจกรรมเสวนาต่อเนื่อง เป็น Series ที่ไม่ใช่การหาทางออกในครั้งเดียวจบ ต้องทำเป็นกระบวนการมากกว่าการเป็นแค่ Event หลายเรื่องไม่สามารถรู้ดำรู้แดงภายในครั้งเดียว แต่ต้องเป็นสีเทาก่อน ชวนกันมาหาทางออกจากสีเทา บางครั้งอาจไม่ได้เป็นสีขาวหมด หรือดำหมด บางทีสีเทาอาจเป็นสีผสมที่ถูกต้อง สะท้อนความเป็นจริงที่สุด
  • อาจไม่ต้องถึงกับประกาศว่า เราจะแก้ปัญหาสังคมด้วยกัน จะเป็นคนหาคำตอบให้ แต่ชวนมาตั้งวง ‘กาแฟธรรม’ โดยมีคนรุ่นใหม่มาเป็นแกนชวนคุย เชื่อว่าคนรุ่นใหม่หลายคนกำลังอึดอัด จะต้องอยู่ฝั่งไหน ใครจะมองมาอย่างไร ซึ่งไม่เกี่ยวกับเนื้อหาสาระ แต่เกี่ยวกับ ‘ท่าที’ ซึ่งเมื่อเป็นเรื่องของ ‘ท่าที’ ก็จะกลายเป็นสิ่งที่พาเราออกนอกเส้นทางที่เราจะสนทนากันอย่างลึกซึ้ง
  • คิดมาตลอดว่าปัญหาของสังคมไทยทุกวันนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของการระดมความคิด แต่เป็นการ ‘แบ่งข้าง’ เป็นเรื่องของท่าที ไม่ใช่เรื่องของสาระ มองว่าสวนโมกข์ ‘ไม่มีสี บอดสี’ ทุกคนมากินกาแฟที่นี่ แล้วสนทนาเรื่องที่น่าสนใจ อาจไม่ต้องตั้งหัวข้อไว้ก่อนก็ได้ แต่มาดูกันว่าวันนี้อยากคุยเรื่องอะไร กลายเป็น ‘Starbucks ธรรมะ’ เป็นบ้านที่สาม มาเจอคน นัดเพื่อนคุยกัน บรรยากาศเป็นกันเอง บรรยากาศของ ecosystem เป็นกลาง ๆ ไม่ Luxury (หรูหรา) ซึ่งคิดว่าสวนโมกข์พร้อมอยู่แล้วในทุกวันนี้

IMG 6502 2 cr

  • การตั้งวงสนทนานี้ เราทำโดยไม่มุ่งว่าจะสำเร็จหรือไม่ เรามุ่งเรื่องกระบวนการ สร้างกระบวนการ แล้วให้มันดำเนินไปด้วยตัวของมันเอง แล้วเมื่อคนรุ่นใหม่เข้ามา เขาจะเป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบต่อเอง
  • (หากคนที่มาร่วมสนทนาทั้งสองฝ่ายไม่มีความรู้เรื่องธรรมะเลย) ... ต้องมีคนคอยดัก ตั้งหัวข้อเกี่ยวกับศาสนา หรืออาจจะไม่เกี่ยวกับศาสนาเลยก็ได้ อาจคุยในเรื่องที่เป็นที่สนใจอยู่ เพราะสวนโมกข์ควรเป็นที่ที่คนมากินกาแฟแล้วคุยกันเรื่องไหนก็ได้ หากเป็นเรื่องศาสนาก็ยิ่งดี หรือคุยเรื่องปรัชญา ชีวิตของคนไทยวันนี้เป็นอย่างไร ซึ่งท้ายแล้วก็จะมีคนมาชวนคุยเรื่องศาสนาอยู่ดี
  • เสนอเชิญ ดร.วิรไท สันติประภาพ มาตั้งวงสนทนาเป็นคนแรก เปิดเวทีกาแฟธรรม
  • ทุกสิ่งที่เราเจอในทุกวันนี้ไม่ได้ขัดแย้งกัน แม้แต่ Metaverse (โลกเสมือนจริง) พุทธศาสนาอยู่ในโลกเสมือนจริงเป็นอย่างไร
  • (แนะนำหนังสือ Seeing with the Eyes of Dhamma - ธรรมะเล่มน้อย) … สำหรับคนรุ่นใหม่ ธรรมะต้องสนุกและย่อยง่าย ซึ่งท่านพุทธทาสเป็นคนมีอารมณ์ขัน แต่ท่านจะไม่ยอมทำให้เป็นเรื่องบันเทิง ท่านพยายามรักษาไว้ซึ่งความขลัง เล่าด้วยความจริงจัง แต่จะแทรกไว้ด้วยอารมณ์ขัน ซึ่งหากได้ฟังเทปไปด้วยจะพบว่าท่านมีอารมณ์ขัน คนฟังในรุ่นนั้นจะรู้สึกสนุก และไม่คิดว่าท่านจะต้องมาย่อยให้เรา ท่านบอกว่า “จะให้พูดง่าย สนุกอย่างเดียวเพื่อให้พวกเธอไปย่อยได้ง่าย สมองของพวกเธอก็จะไม่ได้ทำงานที่จะวิเคราะห์เอง …” ดังนั้นเราต้องอ่าน และเวลาอ่าน ต้องย้อนกลับมาอ่านหลายครั้ง ทบทวนว่าที่อ่านไปนั้นเข้าใจถูกไหม นี่เป็นสิ่งที่ช่วยเรื่อง Critical Thinking

271641997 3010607279161173 2745629721126103627 n

  • หากวง ‘กาแฟธรรม’ เกิดขึ้นได้ อยากให้เยาวชนมานั่งถกกัน มาเลือกว่า chapter นี้ไหม ประโยคนี้ไหม ท่านพุทธทาสหมายถึงอะไร มีความเป็นอย่างอื่นได้ไหม จะเกิดความสนุก คนรุ่นใหม่จะได้เข้าใจถึง ‘Depth – ความลึก’ ได้ย่อยเอง ผ่านกระบวนการคิดอย่างลึกซึ้งเหมือนคนรุ่นก่อน ๆ ที่ได้ฝึกสอนตัวเองมา
  • (การปรับปรุงสโมสรธรรมทาน สวนโมกข์กรุงเทพ เปิดเป็น ‘ห้องสมุดพุทธทาส เมื่อ ๙๐ ปีก่อน’นำโต๊ะ ตู้ รวมถึงข้าวของจากวัดชยาราม อ.ไชยา จ. สุราษฎร์ธานี ที่ท่านพุทธทาสเคยใช้มาจัดแสดง มีหนังสือของท่านพุทธทาสให้ค้นอ่านได้) ... หากให้คนทำ Cryptocurrency มาดู อาจทำเป็น ‘NFT - Non Fungible Tokens*’ ได้ เช่น หนังสือเล่มแรกของท่านพุทธทาส ของชิ้นเดียวของท่านพุทธทาส เด็กรุ่นใหม่สามารถช่วยทำได้ เป็นการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ และจะทำให้คนรุ่นใหม่เข้ามาสนใจเวทีนี้

*NFT – Non-Fungible Tokens ทำความรู้จักกับ NFT คืออะไร?